ช่องคลอด อักเสบในวัยชรา สาเหตุของโรค เนื่องจากการเกิดโรคนี้ เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี จึงควรรับประทานวิตามินบีรวม น้ำผึ้ง วอลนัทเคอร์เนล สาหร่ายและอาหารอื่นๆ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้มากขึ้น ภาวะช่องคลอดอักเสบในวัยชราเป็นเรื่องปกติ เพราะมักเกิดขึ้นในสตรีสูงอายุหลังวัยหมดประจำเดือน
เนื่องจากการทำงานของรังไข่ลดลง เอสโตรเจนหลายระดับจึงลดลง และผนังช่องคลอดฝ่อหรือลีบ เยื่อเมือกบางลง ปริมาณไกลโคเจนในเซลล์เยื่อบุผิวลดลง ค่าพีเอชของช่องคลอดเพิ่มขึ้น ความต้านทานในร่างกายลดลง และแบคทีเรียก่อโรคได้ง่าย เกิดการขยายพันธุ์ทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ การผ่าตัดรังไข่ ภาวะรังไข่ล้มเหลวก่อนวัยอันควร รังสีรักษาในอุ้งเชิงกราน เกิดการหมดประจำเดือน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเวลานาน ล้วนทำให้เกิดโรคนี้ได้
ภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ช่องคลอดปกติจะมีแลคโตบาซิลลัสที่ผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ในภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อแบบผสมผสานภายในร่างกาย ที่เกิดจากการลดลงของแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด และการเพิ่มขึ้นของการ์ดเนอร์เรลลา หรือแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา เพราะมันก่อให้เกิดโรคคือ แคนดิดา อัลบิแคนส์ ซึ่งเติบโตได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด และเป็นไบเฟสซิก ค่าพีเอชของช่องคลอดของผู้ป่วยอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 4.7 แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคโดยทั่วไปอยู่ในระยะยีสต์และระยะไฮเฟ ตัวกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่ การตั้งครรภ์ โรคเบาหวาน การใช้ยากดภูมิคุ้มกันจำนวนมาก และยาปฏิชีวนะ
สิ่งจูงใจอื่นๆ ได้แก่ แคนดิดาในทางเดินอาหาร การสวมชุดชั้นในสังเคราะห์แน่น หรืออ้วนขึ้น เชื้อราในช่องคลอดอักเสบ ทริโคโมแนส วาจินาลิส เหมาะที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ชื้นด้วยอุณหภูมิ 25 ถึง 40 องศาและพีเอช 5.2 ถึง 6.6 ค่าพีเอชของช่องคลอดเปลี่ยนแปลง ก่อนและหลังมีประจำเดือน โดยจะใกล้เคียงกับค่ากลางหลังมีประจำเดือน และทริโคโมแนสสามารถสืบพันธุ์ได้ง่าย
ค่าพีเอชของ ช่องคลอด ของผู้ป่วย โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 5.0 ถึง 6.5 ซึ่งส่วนใหญ่คือ มากกว่า 6.0 ปรสิตในช่องคลอดท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะ กระดูกเชิงกรานของไต หรือในต่อมลูกหมาก มักอยู่ร่วมกับช่องคลอดอักเสบชนิดอื่นๆ ช่องคลอดอักเสบในวัยชรา ในสตรีวัยหมดประจำเดือน การทำงานของรังไข่ลดลง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ผนังช่องคลอดฝ่อ เยื่อเมือกบางลง ค่าพีเอชในช่องคลอดเพิ่มขึ้น
ความต้านทานมักจะลดลง และแบคทีเรียก่อโรคอื่นๆ ผลิตมากเกินไปหรือบุกรุกได้ง่าย จึงทำให้เกิดการอักเสบ ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียแอโรบิก ช่องคลอดอักเสบในผู้หญิง ทั้งในทารกและเด็กเล็กเกิดจากการพัฒนาของช่องคลอดที่ไม่ดี ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ และสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เชื้อโรคที่พบบ่อย ได้แก่ เอสเชอริเชีย โคไล สแตฟฟิโลคอคคัสเป็นต้น
การรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบในวัยชรา หลักการรักษาคือ ควรยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ควรเพิ่มความเป็นกรดในช่องคลอด ล้างช่องคลอดด้วยสารละลายกรดแลคติก 1 เปอร์เซ็นต์ หรือสารละลายกรดอะซิติก 0.1 ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มความเป็นกรดในช่องคลอด และยับยั้งการเจริญเติบโต เนื่องจากการสืบพันธุ์ของแบคทีเรีย เกิดขึ้นเพียงวันละครั้ง
ดังนั้นควรเพื่อเพิ่มความต้านทานต่อช่องคลอด และการอักเสบรุนแรงต้องใช้การเตรียมเอสโตรเจน เอสโตรเจนสามารถบริหารให้เฉพาะที่ หรือตามระบบได้ ไดเอทิลสติลเบสทรอล 0.125 ถึง 0.25 มิลลิกรัมใส่เข้าไปในช่องคลอดทุกๆ คืน 7 วันเป็นหลักสูตรการรักษา หรือเคลือบด้วยครีมไดเอทิลสติลเบสทรอล 0.5 เปอร์เซ็นต์
สำหรับยารักษาทั่วร่างกาย ไนล์ทริออลสามารถรับประทานได้ 4 มิลลิกรัมเป็นครั้งแรก จากนั้นทุกๆ 2 ถึง 4 สัปดาห์ ครั้งละ 2 มิลลิกรัมเป็นเวลา 2 ถึง 3 เดือน แต่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อเยื่อบุโพรงมดลูก เพราะจะปลอดภัยกว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ไม่ควรใช้การเตรียมเอสโตรเจน
การเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณเล็กน้อย เป็นหลักการของการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบในวัยชรา ซึ่งอาจทำให้เยื่อเมือกในช่องคลอดข้นขึ้นและเพิ่มการดื้อยา อย่างไรก็ตาม การใช้เอสโตรเจนอย่างไม่สมเหตุผล สามารถนำไปสู่มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมะเร็งเต้านมได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
อ่านต่อเพิ่มเติม คลิ๊ก !!! ต่อมไทรอยด์ และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ควรดูแลตัวเองอย่างไร