โรงเรียนวัดนาหนอง (วิธานราษฎร์อนุกูล)

หมู่ 2 ต.ดอนแร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

095 049 4524

ชน ชาติมองโกล

ชน ชาติมองโกล

ชาติมองโกล

ชาติมองโกล ชาวมองโกลถือได้ว่าเป็นชนกลุ่มน้อย ที่มีประชากรประมาณ 5,800,000 กว่าคน ส่วนมากยึดอาชีพเลี้ยงปศุสัตว์ ในเขตมองโกลเลีย และมณฑลเหลียวหนิงซึ่งถูกจัดให้เป็นเขตปกครองตนเอง เป็นขนกลุ่มน้อยในจีนที่น่าสนใจ มีการนับถือศาสนาพุทธนิกายแบบธิเบต มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์และเป็นที่เคารพของชาวมองโกลทั่วไปที่รู้ได้แก่ “เจงกีสข่าน” หรือชื่อเดิมที่ทางครอบครัวตั้งให้ว่า “เตมูจิน” ซึ่งมีความสามารถในการรวบรวมเผ่ามองโกลได้สำเร็จ

และทำการก่อตั้งเป็นราชวงศ์หยวน และกุบไลข่าน ที่ได้แผ่ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวางตั้งแต่ฝั่งทะเลจีนไปจรดทะเลไนยโกของยุโรป ในภาษาจีนจะเรียกชนกลุ่มน้อยนี้ว่า “เหมิงกูล” แต่ที่รู้จักกันโดยส่วนใหญ่ว่า “มองโกล” แต่เดิมอาศัยอยู่ที่เขตปกครองมองโกล และมีการปกครองตนเองอยู่ที่เขตปกครองตนเองในซินเจียง ซิงห่าย กานซู และอีกส่วนหนึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของมณฑลแถวยูนาน เหอเป่ย ซีนชวน และหนิงเซีย

บรรพบุรุษของชาวมองโกลมีถิ่นกำเนิดดั่งเดิมอยู่ที่บริเวณลุ่มแม่น้ำวังเจียน ปัจจุบันได้แก่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเอ๋อกานู ซึ่งมีชื่อปรากฏในแผนที่ว่าจี้วถังซู บันทึกเก่าของจีนได้มีการบันทึกไว้ว่า ราชวงศ์ถังประมาณคริสต์ศักราชที่ 840 หลังจากประเทศล่มสลาย ได้มีกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวพยายามที่จะรวมกลุ่มกันจัดตั้งประเทศขึ้นมาใหม่กลุ่มชนเหล่านี้มีชนกลุ่มน้อยชาวมองโกลรวมอยู่ด้วย อิทธิพลทางด้านภาษาทำให้ชนกลุ่มนี้มีอำนาจขึ้นมาจากคนเลี้ยงสัตว์เป็นนักรบ จึงทำให้พวกมองโกลมี 2 สถานะได้แก่ พวกปศุสัตว์ และนักรบ ไปในเวลาเดียวกัน พวกแรกได้แก่พวกเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน ได้แก่พวกที่มีชื่อว่า เทอร์จิคอาศย์

ส่วนกลุ่มที่สองได้แก่ กลุ่มที่อาศัยอยู่ในป่าลึกมีความชำนาญในการล่าสัตว์ภายหลังพัฒนาเป็นนักรบ และนักสู้ที่เรียกว่า น่าเหยียน เป็นกลุ่มชนที่มีอำนาจมาก เมื่อมีอำนาจก็จะหลงใหลกับอำนาจและคบหากับคนชั้นสูงในยุคนั้น ต่อมาชนกลุ่มน้อยชาวมองโกลได้ก่อตั้งเป็นชนชาติมองโกลขึ้นในประเทศจีน ถือเป็นการก่อตั้งชาติมองโกลครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นชนชาติที่มีความยิ่งใหญ่ มีอาณาเขตของตนเองเรียกว่าอาณาเขตมองโกล และมีการปกครองตนเองเรียกว่าการปกครองมองโกลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1219-1260 ภายใต้การปกครองของเจงกีสข่าน ชนชาติมองโกลมีการทำศึกสงครามหลายครั้ง ได้ขยายอาณมเขตไปทางตะวันตก

และได้ก่อตั้งเป็นรัฐในปกครองของยูนาน ในรัสเซีย รวมแล้วได้ถึง 4 รัฐได้แก่ รัฐโวควีไถ, รัฐฉานเหอไถ, รัฐชินฉา และรัฐอีร์ ในขณะเดียวกันก็ได้ทำสงครามขยายอาณาเขตไปทางใต้ รวมการทำสงครามของมองโกลทั้งสิ้นกว่า 70 ปี กว่าจะก่อตั้งประเทศให้เป็นรูปเป็นร่างด้วยการก่อตั้งราชวงศ์ยวนไดได้เป็นผลสำเร็จ ได้รวบรวมดินแดนในสมัยนี้ไว้ได้ดังนี้ ทิศเหนือจรดไซบีเรีย ทิศใต้จรดทะเลจีนใต้ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจรดแม่น้ำอูซูหลี ด้านตะวันออกและใต้ ทิศตะวันตกจรดดินแดนทิเบตนอกจากในสมัยหยวนแล้วได้ขยายอาณาเขตไปครอบครองดินแดนทิเบตเป็นครั้งแรกอีกด้วย นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งหลักฐานที่เป็นปึกแผ่นถาวรชองมองโกลมาถึงปัจจุบัน

ภาษาของชาวมองโกล ได้แก่ภาษามองโกล จัดอยู่ในภาษาอลันไต สาขามองโกล แบ่งสำเนียงออกได้เป็น 3 ลักษณะได้แก่ มองโกลเสียใน เป็นภาษาที่ได้รับการปรับปรุงให้มีรูปแบบที่เหมาะสมในการใช้อย่างเป็นทางการในปัจจุบันเรียกว่าเป็นภาษามองโกลที่สมบูรณ์ที่สุด ส่วนภาษาที่เป็นตัวอักษรในปัจจุบันคือ ภาษาที่ได้ปรับปรุงมาจากภาษาในศตวรรษที่ 13 และได้รับการพัฒนามาเรื่อย ๆ โดยนักภาษาศาตร์จนกลายเป็นภาษาเขียนของมองโกลที่สมบูรณ์ในที่สุด ปัจจุบันจากศตวรรษที่ 17 องค์ดาไลลามะได้ปรับปรุงอักษรมองโกลเพื่อใช้ในภาษามองโกลโดยเฉพาะมีสำเนียงที่เรียกว่า “หวังเทอร์” ใช้สำหรับชาวมองโกลที่อาศัยอยู่ในมนฑลซินเจียง

ส่วนด้านเศรษฐกิจรวม อดีตชาวมองโกลใช้ชีวิตด้วยการล่าสัตว์ และเลี้ยงสัตว์ปัจจุบันอาชีพเก่านี้ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง ชาวมองโกลมีความเชี่ยวชาญอีกอย่างได้แก่การขี่ม้า และยิงธนู อาชีพเก่าที่เคยล่าสัตว์และเลี้ยวงสัตว์ได้มีการพัฒนามาเป็นการเกษตรครบวงจร โดยในช่วงแรกหรือในศตวรรษที่ 17 ซึ่งอยู่ในยุคอาณาจักรถ่านข่าน ทำทำการเชื่อมสัมพันธ์กับราชสำนักหมิง มีการเปิดพรมแดนการค้าระหว่างกัน มีผลทำให้พรมแดนการค้ากว้างใหญ่ทำให้กิจการเลี้ยงสัตว์ และล่าสัตว์อาชีพเก่าของมองโกลได้เติบโตขึ้นเนื่องจากมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ชาวมองโกลเป็นผู้มีความคิดกว้างไกลได้สร้างเมืองขึ้นใหม่ซึ่งปัจจุลบันคือเมืองฮูเหอเฮ่าเท่อ

เป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะยาโบราณของชาวมองโกลจะขายดีมาก เป็นยาที่มีความพิเศษและโดดเด่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวมองโกลโดยเฉพาะ มีการนำยาที่ได้มารักษาโรคที่เกิดจากการต่อสู้จากภัยธรรมชาติ และจากการสู้รบในสงคราม เป็นการแพทย์ที่ได้รับจากอดีตของชาวมองโกลโดยเฉพาะ ต่อมามีการก่อสร้างโรงพยาบาลเพื่อการรักษาโรคไขข้อ และบาดแผลที่เกิดจากการไหม้ไฟ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการรักษาเฉพาะของชาวมองโกลที่คนชาติอื่นเรียนแบบได้ยากยิ่ง และยังมีการเขียนตำราแพทย์ของชาวมองโกลไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย เช่น เรื่องที่เกี่ยวกับตำหรับยาของชาวมองโกล เรื่องที่เกี่ยวกับอาหารการกินที่เป็นยา เรื่องตำราแพทย์มองโกล รวมทั้งการบำรุงร่างกายที่เป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย ซึ่งต่อมาได้เป็นคุณประโยชน์แก่วงการแพทย์อย่างมากมาย

ปัจจุบันเขตการปกครองมองโกลได้มีการพัฒนาออกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังทำความสำคัญให้กับการประถมศึกษาซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของการศึกษาภาคบังคับในโรงเรียนกว่าสองหมื่นแห่ง และโรงเรียนมัธยมอีกกว่าห้าพันแห่ง รวมทั้งวิทยาลัยอาชีวะอีกกว่า 80 แห่งและยังมีมหาวิทยาลัยอีก 15 แห่งที่มีการสอนผ่านทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการพัฒนาทางด้านการศึกษาของเด็กทั้งชาวมองโกลเองและเด็กที่มีเชื้อชาติอื่น ๆ ด้วย นอกจากนั้นชาวมองโกลที่มี่อีนจะกินยังได้มีการมองเงินเพื่อเป็นการกุศลในการก่อสร้างห้องสมุดเพื่อประชาชนอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการบริจาคที่เป็นคุณประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาด้วยตนเอง เป็นการบริจาคเพื่อการสังคม และการพัฒนาประเทศได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยังได้รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวมองโกลไว้ได้อย่างเหนียวแน่นด้วยการทำกุศลในการช่วยเยาวชนของชาติให้มีที่เรียนหนังสืออีกต่างหาก